075-637-152

เรือไปเกาะพีพี จากกระบี่

อ่านเนื้อหาข่าวได้จากรายละเอียดด้านล่างนี้ค่ะ




เอาล่ะครับ วันนี้เราจะไปเที่ยวเกาะพีพีกัน

เนื่องจากเกาะพีพี "เป็นเกาะ" (ก็ใช่น่ะสิ) ดังนั้นการเดินทางไปเกาะมีอยู่สองวิธีด้วยกันคือ 1.บินไป และ 2.นั่งเรือไป ด้วยความที่เกาะพีพีไม่มีสนามบิน ดังนั้นตัดประเด็นนี้ทิ้งไปก่อนครับทั่นผู้ชม (แล้วจะพูดขึ้นมาทำเพื่อ 555) เอาล่ะ ในเมื่อมันเหลือการเดินทางวิธีเดียวคือ ทางเรือ เรามาดูกันว่ามีเรือกี่แบบบ้างที่รับโดยสารจากหาดนพรัตน์ธารา เรียงลำดับตามความเร็วแล้วกันนะครับ

  1. เรือสปีดโบ๊ท ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสปีด แปลว่าเร็ว ทีนี้เร็วแค่ไหน เรือที่เร็วที่สุดของอ่าวนาง แทรเวล แอนด์ ทัวร์นั้นคือ อ่าวนางปรินเซส 222 (3 เครื่องยนต์ 255 แรงม้า) ทำความเร็วสูงสุดที่ประมาณ 30 น็อต (คร่าวๆก็ประมาณ 54 กม./ชม.) เดินทางจากท่าเรือนพรัตน์ธารา ไปยังเกาะพีพีประมาณ 40 นาที เรือลำนี้จุผู้โดยสารได้สูงสุด 45 คน
  2. เรือหางยาว คือเรือไม้ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ๆเสียงดังๆ และมีใบพัดยาวๆต่อจากท้ายเรือออกไป ในลำเรือมีไม้กระดานหรือเบาะนวมสำหรับใหันักท่องเที่ยวนั่ง เวลานั่งต้องหันหน้าไปทางเดียวกัน ห้ามลุกเดิน ห้ามถ่วงน้ำหนัก ความเร็วประมาณ 10 น็อตไม่เกินนั้น ผู้โดยสารน่าจะได้สูงสุดไม่เกิน 10 คนนะ เรือนี้ส่วนมากแล้วไม่ไปเกาะพีพี เพราะระยะทางมันไกล และในทะเลคลื่นใหญ่ อาจไม่ปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว
  3. เรือเฟอรี่ เป็นเรือที่ใช้โดยสารโดยเฉพาะ จุผู้โดยสารได้ทีละมากๆ ตั้งแต่ 100-500 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดเรือด้วย ยกตัวอย่างเช่น อ่าวนางปรินเซส 2 จุผู้โดยสารได้ประมาณ 125 คน ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือนพรัตน์ธาราไปยังเกาะพีพีประมาณ 2 ชั่วโมง


โอเค! คราวนี้เหลือแค่สองทางเลือกระหว่างเรือสปีดโบ๊ท และเรือเฟอรี่ ที่จะพาเราไปเกาะพีพี เรามาดูกันว่าจะไปแบบไหนดี


  1. เรือสปีดโบ๊ท ไวมาก ถึงเร็ว ทันใจวัยรุ่น แต่ช้าก่อน... ไม่มีตั๋วเป็นรายหัวนะครับ จะต้องเหมาลำเท่านั้น โดยสนนราคาค่าเรือพร้อมคนขับต่อวันคงอยู่ที่ราวๆ 25,000 - 30,000 บาท ถึงแม้ว่าเราอยากจะแค่ให้ไปส่งที่เกาะพีพีก็เถอะ ราคาคงไม่ห่างจากนี้เท่าไหร่ครับ เพราะด้วยความที่มันเป็นเรือเร็วที่ราคาแพง ค่าบำรุงรักษาเอย ค่าน้ำมันเอย เยอะครับ และโดยปรกติแล้วเรือสปีดโบ๊ทจะถูกนำมาใช้งานแพ็กเกจทัวร์ตามเกาะต่างๆ ซึ่งทำเวลาได้ดีและที่สำคัญสามารถเข้าถึงชายหาดที่น้ำตื้นได้ เช่นอ่าวมาหยา เป็นต้น ดังนั้นแทนที่เรือนี้จะได้รับนักท่องเที่ยวแพ็กเกจเป็นกลุ่มเต็มๆลำ กลับต้องมารับเราไปเกาะพีพีคนเดียว ค่าเสียเวลาและค่าเสียโอกาสก็แพงสักหน่อย แต่ถ้าเราเป็นสายเปย์แล้วล่ะก็... อย่าได้แคร์!
  2. เรือเฟอรี่ อารมณ์ประมาณไปไหนไปด้วย นั่งมองหน้ากันตลอดทาง มีร้านขายของบนเรือ เข้าห้องน้ำได้ แต่ลุกเสียม้า(ถ้าเป็นชั้นประหยัด) มีที่นั่งบนเรือเฟอรี่สองสามแบบคือ 1.) ลมธรรมชาติ, ที่นั่งธรรมดาแข็งๆ เลือกได้ตามใจชอบ อันนี้ราคาถูกสุด 2.) ห้องแอร์ เบาะนวม ล็อกที่นั่ง และ 3.) ห้องแอร์วีไอพี อันนี้มีน้ำ มีหนมแจกด้วย บางทีมีทีวีให้ดู (ได้ยินว่าอ่าวนางปรินเซส 8 มีช่องเสียบ USB ให้ด้วยนะ) ระยะเวลาคงไม่ต่างกันมาก เพราะเรือใหญ่ต้องรักษาความเร็วไม่ให้มากไปเพราะเครื่องยนต์และความปลอดภัยของผู้โดยสารนั้นเอง ราคาค่าตั๋วของแต่ละที่นั่งก็อยู่ราวๆ 500 - 1,200 ต่อเที่ยว ถ้าซื้อเป็นราวทริป (ไป-กลับ) ก็จะถูกลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเที่ยวเวลาที่เดินทางและโปรโมชั่นของบริษัทด้วย

ทีนี้... ขึ้นอยู่กับคุณแล้วละครับ ว่าสะดวกจะเดินทางแบบไหน ไม่ว่าจะสปีดโบ๊ท หรือเรือเฟอรี่ ทางอ่าวนางแทรเวล แอนด์ ทัวร์ ก็ยินดีพร้อมให้บริการ ที่สำคัญเราถือความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลักด้วยการเพิ่มประกันชีวิตให้ลูกค้าทุกเที่ยว จึงมั่นใจได้ว่าเราพร้อมที่จะดูแลท่านจนปลอดภัยตลอดการเดินทางอย่างแน่นอน


พร้อมมั้ย? ปะ! จองตั๋วไปเที่ยวพีพีกันเถอะ